สำหรับลูกค้าที่ซื้อผ่านช่องทาง Online ของทางร้าน รบกวนให้ถ่ายวิดีโอ ตอนแกะกล่อง เพื่อเช็คว่าตัวเครื่องไม่มีรอยบุบ หรือมีชิ้นส่วนแตกหัก ถ้าพบว่าตัวเครื่องมีรอยบุบ หรือมีชิ้นส่วนแตกหัก สามารถแจ้งกับทางร้านได้

หลังจากที่ทำการ Selt Test เครื่องเสร็จ แนะนำให้ Upgrade Firmware ของเครื่องให้เป็นตัวล่าสุดก่อน ที่จะเริ่มใช้งาน โดยเครื่องจะต้องทำการ Log In ด้วย User ที่ได้ลงทะเบียนผ่านโปรแกรม Bambu Handy หรือ Bambu Studio ก่อน ถึงจะทำการ Update Firmware ได้

นำเครื่องออกจากกล่อง

เปิดกล่องออกมา จะพบกับพลาสติกใสหุ้มเครื่อง ให้เอาโฟมกันกระแทกด้านบนออก แล้วใช้ 2 มือ ดึงถุงพลาสติกออกมาพร้อมเครื่องได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าถุงพลาสตจิกจะขาด ตัวเครื่องมีน้ำหนักประมาณ 9.65 กิโลกรัม หลังจากเอาเครื่อง ออกมาแล้ว ให้ ตัดถุงพลาสติก แล้วเอาเครื่องออกมาจากถุง หลังจากนั้นให้ ดึงกล่องใส่อุปกรณ์ขอเครื่องออกมา โดยดึงออกมาทางด้านบนของเครื่อง

สามารถดึงถุงพลาสติกหร้อมกับเครื่องแล้วยกออกมาได้เลย ไม่ต้องกลัวถุงขาด
ศึกษาคู่มือการประกอบ ที่ติดอยู่ด้านบนเครื่องให้ละเอียด ก่อนที่จะทำการประกอบ
แกะพลาสติกแล้วเอาแผ่นกระจกออก หาที่วางที่เรียบๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กระจกแตก

ยกกล่อง AMS และกล่องอุปกรณ์

ในกล่องอุปกรณ์จะมีหน้าจอ และสายไฟ รวมถึงเครื่องมือในการประกอบ
อุปกรณ์ที่มีอยู่ในกล่องสีน้ำตาล

รายการอุปกรณ์ที่มีมาในกล่องจะมีตามนี้

  1. สายไฟ
  2. หน้าจอสั่งงานเครื่อง
  3. ประแจ L สำหรับประกอบและซ่อมบำรุง มีมาให้ 2 ขนาด
  4. กาว UHU ทาฐานพิมพ์
  5. สายต่อ AMS 4 Pin
  6. ตัวแขวนเส้นด้านหลัง
  7. หัวฉีดสำรองขนาด 0.4 มิลลิเมตร
  8. เข็มแทงปลายหัวฉีด
  9. สายต่อ AMS 6 Pin
  10. คู่มือ Quick Start Guide
  11. ถุงใส่สารหล่อลื่น และอุปกรณ์อื่นๆ
อุปกรณ์อื่นๆ ที่อยู่ในถุงซิป

อุปกรณ์ที่บรรจุอยู่ในรายการที่ 11 มีดังนี้

  1. Thermal Paste ครีมระบายความร้อน ใช้ตอนเปลี่ยนฮีทเตอร์ที่หัวฉีด
  2. จารบีขาว สำหรับหล่อลื่นและบำรุงรักษาเครื่อง
  3. น็อตสำหรับยึดตัวแขวนเส้นพลาสติก
  4. ปลอกรัดฮีทเตอร์หัวฉีด
  5. กาว 2 หน้า สำหรับใช้คู่กับงานปริ้น ที่วางมือถือ ตัวไฟล์ต้องไปโหลดมาปริ้นเอง
  6. น็อตสำรองสำหรับชุดหัวฉีด
  7. ใบมีดแซะงาน พร้อมน็อตยึด ต้วไฟล์ต้องไปโหลดมาปริ้นเอง
  8. อุปกรณ์สำรอง ตัวเช็ดหัวพิมพ์
  9. อุปกรณ์สำรอง ตัวใบมีดตัดเส้นพลาสติก

สำหรับเส้นพลาสติกที่แถมไปกับเครื่อง จะไม่สามารถระบุชนิดได้ ขึ้นอยู่กับทางโรงงานใส่เข้าไปให้ ส่วนใหญ่จเป็นเส้น PLA basic จำนวน 2 ม้วน และเส้นสำหรับสร้าง Support หรือตัวรองรับ ที่ใช้กับเส้น PLA จำนวน 1 ม้วน ในส่วนของน้ำหนักเส้น จะให้ประมาณ 300 กรัมต่อม้วน

เส้นที่มากับเครื่องจะมีด้วยกัน 3 ม้วน เป็นเส้น PLA 2 ม้วน และเส้นสร้าง Support สำหรับ PLA จำนวน 1 ม้วน

นำโฟมและขันน็อตตัวล็อคฐานออก

หลังจากสำรวจอุปกรณ์ที่มีในกล่องครบแล้ว ให้เอาโฟมกันกระแทกที่อยู่ด้านบนออกทั้งหมด รวมถึงขันน็อตที่ล็อคตัวกล่อง AMS ออก แล้วดึงกล่อง AMS ขึ้นด้านบน

เอาโฟมกันกระแทกด้านบนออก
โฟมบางตัว อาจจะดึงออกยาก อาจจะต้องลองบิดไปมา พร้อมกับดึงออกไปพร้อมกัน
ขันน็อตที่ล็อก กล่อง AMS จำนวน 2 ตัว ที่อยู่ด้านซ้ายและขวา เพื่อที่จะได้ยกกล่อง AMS ขึ้นมาได้
ทำการยกกล่อง AMS ขึ้นมาจากด้านบน

พอมาถึงขั้นตอนนี้แล้ว ให้สำรวจของที่อยู่ในกล่อง AMS และลอกพลาสติกรอบกล่องออก

ทำการลองสติกเกอร์ที่ปิดรอบกล่อง AMS ออก
เปิดฝา ด้านในกล่อง AMS จะมีท่อเทฟลอน PTFE สำหรับต่อเข้าเครื่อง และมีอีกชุด สำหรับไว้สำรองเปลี่ยน

ถอดตัวล็อคกล่อง AMS

หลังจากที่เอากล่อง AMS ออกมาได้แล้ว ต่อไปจะเป็นการถอดตัวพลาสติกที่ใช้ล็อคกล่อง AMS ที่อยู่ในเครื่องออก ซึ่งจะประแจ L ตัวยาว ขันน็อตทั้ง 4 ตัวออก ถึงจะยกตัวพลาสติกออกมาได้

น็อตยึดจะมีทั้งหมด 4 ตัว อยู่ตรงตำแหน่ง ที่ลูกศรชี้
เมื่อันน็อตทั้ง 4 ตัวออกแล้ว ให้ทำการดึงต้วพลาสติกล็อคกล่อง AMS ออก ก็จะเห็นแผ่นฐานรองปริ้น

เอากระดาษและน็อตล็อคฐานปริ้นออก

ต่อไปจะเป็นการเอากระดาษและตัด Zip Tie ที่ล็อคอยู่บนหัวฉีดออก พร้อมลองสติกเกอร์ที่ติดหัว สำหรับหัวฉีด จะมีฝาครอบด้านหน้าที่เป็นแม่เหล็ก ซึ่งสามารถดึงออกมาได้ ไม่ต้องตกใจ ถ้าฝาครอบหลุดออกมา แค่แปะกับเข้าไปที่เดิม

ใช้คึมตัด Cable Tie ที่รัดครอบหัวฉีดออก
เอาโฟมที่อยู่ในช่องทิ้งเส้นพลาสติกออก

ขั้นตอนต่อไป เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก จำเป็นต้องทำ ห้ามข้ามเด็ดขาด เพราะจะเป็นการถอดน็อตที่ล็อคฐานพิมพ์เอาไว้ ถ้าไม่เอาน็อตออก เวลาเครื่องทำ calibrate จะทำให้ฐานพิมพ์ขย้บขึ้นมาไม่ได้ แล้วทำให้มอเตอร์เสียหายได้

ทำการขันน็อตที่ยึดฐานออกจำนวน 3 ตัว
ตำแหน่งที่ขันน็อตออก จะมีสติกเกอร์ลูกศรที่อยู่ มีทั้งหมด 3 ตัว

สำหรับโฟมที่อยู่ใต้ฐาน ยังไม่ต้องเอาออก หรือฝืนดึงออกมา สามารถเอาออกได้ตอนที่เครื่องกำลัง Calibrate

ติตดั้งหน้าจอ และตัวแขวนเส้น

ขั้นตอนต่อไป จะเป็นการติดตั้งหน้าจอ เข้ากับเครื่องปริ้น ซึ่งตัวหน้าจอจะอยู่ในกล่องอุปกรณ์สีน้ำตาล สำหรับการประกอบหน้าจอ จะไม่ใช้เครื่องมือ เพราะตัวจอ จะมีเขี้ยวที่สามารถสไลด์และล็อคเข้ากับเครื่องได้เลย แต่ก่อนที่จะสไลด์หน้าจอ จะต้องเสียบ Connector จากเครื่องเข้ากับหน้าจอ

แกะสติกเกอร์พื่อปลดสาย Connector ที่เสียบกับจอ

ก่อนที่จะเสียบสาย Connector ให้สังเกตุด้านที่เสียบให้ถูก เพราะตัว Connector จะมีเขี่ยวล็อค ที่เสียบได้ด้านเดียว จะเสียบกลับด้านไม่ได้ ดังนั้นเวลาเสียบให้ดูให้ดีก่อน เพราะถ้าฝืน เสียบผิดด้าน จะทำให้ตัว Connector เสียหาย แล้วใช้งานไม่ได้

เสียบ Connector เข้ากับจอ โดยให้สังเกตุด้านตัวล็อคที่เสียบ ต้องอยู่ให้ถูกฝั่ง

หลังจากที่เสียบสาย Connnector เสร็จแล้ว ให้ทำการจัดเก็บสาย โดยการดันสายเข้าไปในช่อง ให้สอดเข้าไปเท่าที่ทำได้ แล้วค่อยนำจอ ล็อคเข้ากับเครื่อง โดยการเอาเขี่ยวล็อคสอดเข้าไปในช่องแล้วดันไปทางด้านซ้ายให้สุด

ให้เลื่อนและดันหน้าจอไปทางซ้าย เพื่อล็อคหน้าจอ เข้ากับเครื่อง

สำหรับตัวแขวนเส้นพลาสติก จะเอาไว้ใช้แขวนเส้นพลาสติกจำพวก เส้นยาง TPU / TPE และเส้น Composite ที่ไม่สามารถใส่ในกล่อง AMS ได้ เวลาใช้งานเส้นที่แขวนด้านนอก จะต้องโหลดเส้นเข้าไปที่หัวฉีดก่อน

สำหรับการยึดตัวแขวนเส้นด้านนอก จะต้องถอดน็อตที่ปิดฝาหลังของเครื่องออกก่อน เพื่อใช้น็อตตัวใหม่ที่ยาวขึ้น ซึ่งจะมีด้วยกัน 2 ตัว อยู่ในถุงซิป ที่เขียนว่า Spool Holder

ขันน็อตที่ปิดฝาหลัง ตรงตำแหน่ง Sticker ที่ชี้ไป ออก 2 ตัว แล้วใช้น็อตที่ยาวขึ้นแทน
ทำการขันยึดตัวแขวนเส้น

ติดตั้งกล่อง AMS

ต่อไปจะเป็นการติดตั้งกล่อง AMS ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนเส้นพลาสติก โดยปกติ ตัวกล่องนี้ จะตั้งอยู่ด้านบน ฝากระจกของเครื่อง แล้วต่อท่อ จากกล่อง AMS เข้ากับตัว FIlament Buffer ด้านหลังเครื่อง ที่ติดมาแล้วจากโรงงาน

วางกล่อง AMS ไว้บนฝากระจกด้านบนของเครื่อง
เสียบท่อ PTFE เข้าไปที่ Filament Buffer แล้วดันให้สุด

ต่อไปจะเป็นการเสียบสาย Connector เชื่อมต่อระหว่าง Filament Buffer เข้ากับตัวเครื่อง สายที่เสียบจะเป็นสาย 4 Pin ซึ่งมีด้านนึงเป็นข้องอ 90 องศา อีกด้านจะเป็นแบบตรง ให้เอาด้านที่เป็นจข้องอ เสียบเข้าด้านหลังเเครื่องปริ้น ใต้ตัวแขวนเส้นพลาสติก อีกด้านเสียบด้านใต้ของ Filament Buffer

สาย 4 Pin เสียบระหว่าง Filament Buffer กับ เครื่องปริ้น
ด้านที่เป็นข้องอ 90 องศา ให้เสียบเข้าไปที่เครื่อง ส่วนด้านตรงให้เสียบที่ Filament Hub

สำหรับสายที่เป็น 6 Pin จะใช้เสียบที่กล่อง AMS กับตัว Filament Buffer ที่กล่อง AMS จะมีช่องสีเสียบสาย 6 Pin อยู่ 2 ช่อง สามารถเสียบช่องไหนก็ได้

สาเหตุที่กล่อง AMS มีช่องเสียบสาย 6 Pin จำนวน 2 ช่อง เพราะมีไว้สำหรับต่อกล่อง AMS เพิ่มได้ โดยการเชื่อมต่อแบบ Chain หรือลูกโซ่ ซึ่งเครื่อง X1 และ P1 สามารถต่อกล่อง AMS ได้สูงสุด 4 กล่อง ทำให้สามารถปริ้นเส้นพลาสติกได้ 16 ม้วน หรือ 16 สี แต่จำเป็นต้องเปลี่ยน Filament Buffer เป็น Filament Hub แทน

เสียบสาย 6 Pin เข้ากับ FIlament Buffer กับกล่อง AMS

เสียบปลั๊กและเปิดเครื่อง

ก่อนที่จะเสียบปลั๊กและเปิดสวิตช์ แนะนำให้ตรวจสอบอีกครั้ง ว่าไม่มีโฟมหรือกระดาษอยู่ด้านใน ยกเว้นโฟมที่อยู่ใต้ฐานพิมพ์ อันนี้ค่อยเอาออกตอนเครื่องกำลัง Calibrate ส่วนน็อตที่ล็อคฐานพิมพ์ จำนวน 3 ตัว อันนี้ให้ดูให้แน่ใจ ว่าได้ขันออกมาแล้ว

ทำการเสียบปลั๊กแล้วเปิด สวิตช์ด้านหลังเครื่อง
กดปุ่ม Next เพื่อเตรียมเข้าสู่โหมด Selft Test และ Calibrate เครื่อง

การตั้งค่าและเชื่อมต่อ Wifi 

ก่อนใช้งานเครื่อง P1S Combo ตัวเครื่องจะเตือนให้ผู้ใช้ทำการอ่านคู่มือที่มาในกล่อง รวมไปถึงการตั้งค่า ว่าเครื่องใช้อยู่ในโซนไหน และการผูกเครื่องเข้ากับบัญชี ที่สร้างผ่าน AppBambu Handy เพื่อที่จะได้ทำการลงทะเบียนแล้ว Update Firmware

ถ้าไม่ได้ลงทะเบียนและผูกเครื่องเข้ากับบัญขี จะไม่สามารถ Update เฟิรม์แวร์ของเครื่องได้

แจ้งเตือนให้ผู้ใช้อ่านคู่มือก่อนเริ่มใช้เครื่อง
แจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทำการถอดน็อตที่ล็อคฐานพิมพ์เอาไว้ ออกให้หมดก่อนใช้เครื่อง
เลือกโซนที่เครื่องตั้งอยู่ สำหรับประเทศไทยเลือก Asia-Pacific
ทำการ Scan QR code ผ่านโปรแกรม Bambu Handy เพื่อเชื่อมเครื่องเข้ากับบัญชี

เมื่อถึงหน้าจอนี้ ให้ทำการเปิดโปรแกรม Bambu Handy สำหรับใครที่ยังไม่มีหรือยังไม่ได้ติดตั้งสามารถเข้าไปอ่านที่บทความนี้ก่อน แนะนำโปรแกรม Bambu Studio และ Bambu Handy

สำหรับใครที่ยังไม่มี Account แต่อยากใช้เครื่องก่อน ก็ให้กด Setup Later เพื่อข้ามขั้นตอนการผูกบัญชีไปก่อนก็ได้

เมื่อเปิด App Bambu Handy ขึ้นมาแล้ว ให้ทำการ Add Printer ซึ่งก่อนจะทำการ Add ต้องแน่ใจว่า ได้เปิด การใช้งาน Bluetooth ในโทรศัพท์แล้ว เพราะตัว App จะทำการค้นหาเครื่องผ่าน Bluetooth

กดปุ่มมุมขวาบนเพื่อใช้กล้องสแกน QR code
กด Confimr to Bind เพื่อทำการผูกเครื่องเข้ากับบัญชีที่เปิดไว้ก่อนหน้า
เลือกวง WLAN หรือ SSID เพื่อให้เครื่องปริ้น เชื่อมต่อระบบ Wifi
หน้าจอแจ้งเตือน ให้ถอดน็อตที่ฐานพิมพ์ออกก่อน จะทำการ SelfTest

เอาโฟมด้านล่างออกและ Calibrate เครื่องด้วยการ Self Test 

หลังจากที่ผ่านการเชื่อมต่อเครื่องเข้ากับบัญชีแล้ว ตัวเครื่องจะเริ่มทำการ Self Test โดยอัตโนมัติ ซึ่งขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ​ 20 นาที ฐานพิมพ์จะมีการขยับยกตัวขึ้น เพื่อให้เครื่องเริ่มทำการ Calibrate

หลังจากที่ฐานพิมพ์ขยับขั้นให้เอาโฟมที่อยู่ด้านล่างออก

ตอนที่ฐานพิมพ์ขยับขึ้นไปด้านบน ให้เอาโฟมที่อยู่ด้านล่างออก เวลาที่เครื่องทำ Self Test จะมีการขยับของหัวฉีด รวมถึงบางครั้งจะมีอาการสั่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องตกใจ เพราะตัวเครื่องกำลังใช้เซนเซอร์วัดค่าต่างๆ

ทำการ Update Firmaware 

เครื่องที่มาจากโรงงาน บางครั้งตัว Fimware ที่ไปกับเครื่องอาจจะยังเป็นตัวเก่าอยู่ เมื่อทำการ Selftest เสร็จแล้ว เครื่องจะทำการเช็ค Firmware ให้เองในกรณีที่เครื่องเชื่อมต่อ Wifi และมีการผูกเครื่องเข้ากับบัญชี Bambulab ที่สร้างไว้ผ่านทาง Bambu Handy

เครื่องฟ้องว่ามี Firmware ตัวใหม่ ให้กดปุ่ม Ok เพื่อทำการ Update
เมื่อ Update เสร็จแล้วให้กดปุ่ม Confirm เพื่อเริ่มใช้งานเครื่อง

หลังจาก Update Firmware เสร็จแล้ว ทางร้านแนะนำให้ทำ Selft Test เพื่อ Calibrate เครื่องใหม่อีกรอบ เพราะในบางครั้ง Firmware ตัวใหม่ อาจจะมีการเปิดใช่ฟีเจอร์บางตัว ที่ช่วยให้การปริ้นงานทำได้ดีขึ้น การ Calibrate เครื่องอีกรอบ ก็จะช่วยให้ค่าที่ได้มาแม่นยำขึ้น

เครื่องบางตัว อาจจะมีไม่มีหน้าต่าง Update Firmware ขึ้นมา เพราะอาจจะใช้เวอร์ชั่นล่าสุดอยู่

โหลดเส้นพลาสติกเข้ากล่อง AMS

สำหรับการเอาเส้นพลาสติกเข้ากล่อง AMS ก็ทำได้ไม่ยาก แค่เอาเส้นวางในช่องที่ต้องการแล้วแหย่เส้นเข้าไปในช่อง ตัวจับเส้นจะเริ่มดึงเส้นเข้าไปในกล่อง และเช็คตำแหน่ง รวมถึงอ่านค่าจาก NFC ที่ติดอยู่ในม้วนพลาสติก แล้วตั้งค่าให้เองโดยอัตโนมัติ

ใส่เส้นพลาสติกลงในกล่อง AMS

ตัว NFC จะมีเฉพาะเส้นยี่ห้อ Bambulab เท่านั้น ถ้าเป็นเส้นยี่ห้ออื่น จะต้องป้อนค่าเข้าไปเอง ซึ่งสามารถเข้าไปอ่านวิธี การใช้งานกล่องเปลี่ยนเส้น AMS

SATISFYING?
บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

nattawat
nattawat
Articles: 89